ใจเย็นเป็นบัวความหมาย

ใจเย็นเป็นบัว หมายถึง มีสติ ควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่วู่วาม สำนวน "ใจเย็นเป็นบัว" เป็นสำนวนที่บอกถึงคุณสมบัติหรือความสามารถในการควบคุมอารมณ์ สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนหรือมีความเครียดได้อย่างมีสมาธิควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้สงบและมั่นคง 

สำนวนนี้เกิดจากการเปรียบเทียบกับดอกบัวที่มีคุณสมบัติที่ดีอยู่เสมอทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืนโดยไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าสภาพแวดล้อมรอบข้างจะเปลี่ยนแปลงหรือมีความผันผวนก็ตาม บัวยังคงคงความสงบและมั่นคงไว้เสมอ ดังนั้นการบอกว่าใจเย็นเป็นบัวหมายถึงความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนกับอุปสรรคในชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีสมาธิ ในการตัดสินใจในสถานการณ์ที่เป็นที่ยุ่งเหยิงได้ดี 

การมีใจเย็นเป็นบัวจะช่วยให้บุคคลสามารถแก้ไขสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสียสติในขณะเดียวกัน

อ่านต่อ »

ขายผ้าเอาหน้ารอด

ความหมายสำนวนไทยขายผ้าเอาหน้ารอด หมายถึง ยอมเสียสละแม้แต่ของจำเป็นที่ตนมีอยู่ เพื่อรักษาชื่อเสียงของตนไว้ หรือเพื่อไม่ให้เสียหน้า เช่น คู่บ่าวสาวไม่มีเงินเพียงพอสำหรับใช้จัดงานแต่งงาน จึงต้องยอม เอาบ้านไปจำนองเพื่อจัดงานแต่งงานให้สมเกียรติ

ยอมเสียสละแม้กระทั่งสิ่งที่จำเป็นที่ตนมีอยู่เพื่อรักษาชื่อเสียงของตนไว้ไม่ใหัขายหน้า ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับตนก็ตาม สำนวนขายผ้าเอาหน้ารอดนี้มักใช้คนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาหน้าของตัวเองโดยไม่สนใจว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร พื่อรักษาชื่อเสียงของตัวเองไว้

อ่านต่อ »

มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก

เป็นสำนวนไทยที่มีความหมายว่า เปรียบเปรยถึงการกระทำของบุคคลนั้นไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง ไม่เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องไม่สอดคล้องกับกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับความรู้สึกหรือค่านิยมที่ส่วนใหญ่ต้องการให้เกิดขึ้น หรือกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อคนอื่นหรือสังคมโดยรวม พูดจาตลบแตลง กลับกลอก รู้จักใช้คำพูดพลิกแพลงเอาตัวรอดได้เสมอ แม้จะเอามะกอกซัก 3 ตะกร้าขว้างไปก็ไม่โดน มีความหมายเหมือนกับคำว่า “จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน”

อ่านต่อ »

เกลือเป็นหนอน

เกลือเป็นหนอนหมายถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องมีความสัมพันธ์ต่อกันกันเช่น ญาติมิตร สามีภรรยา บุตรธิดา เจ้านายกับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือคนในบ้าน คิดคดทรยศเอาความลับที่รู้กันภายในไปบอกฝ่ายตรงข้ามสร้างความเสียหายอย่างมากในทุกรูปแบบจากการกระทำนั้น 

ตัวอย่างการใช้สำนวนเกลือเป็นหนอน เช่น ผู้จัดการ : คู่แข่งรู้กำหนดการเปิดตัวราคาสินค้าใหม่ของเราได้อย่างไร, เลฃา: ดิฉ้นคิดว่าเกลือเป็นหนอนแน่ๆค่ะ เอาข้อมูลภายในของเราไปบอกให้ฝ่ายนั้นรู้

อ่านต่อ »

เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง

เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ความหมายสำนวนนี้คือ ไม่ชอบหรือเกลียดอะไรสักอย่างหรือเกลียดใครสักคนแบบน่าขยะแขยงสุดรังเกียจ แต่เมื่อได้รับผลประโยชน์ ก็เอาทั้งที่บอกว่ารังกียจ เหมือน อย่างบางคนเกลียดเป็ด ที่เห็นเป็ดกินใส้เดือนแล้วรู้สึกขยะแขยงไม่กล้าทานเนื้อเป็ดแต่ชอบทานไข่เป็ด เกลียดตัวแต่ชอบกินไข่ บางคนก็เกลียดปลาไหลและรังเกียจในรูปร่างของมัน ที่ยาวเหมือนงูน่าขยะแขยง แต่เมื่อเอามาแกง น้ำแกงมีรสหอมก็กินน้ำแกงปลาไหลนั้นแต่ไม่กินเนื้อปลาไหลที่อยู่ใน้ำแกงนั้น จึงเป็นที่มาของสำนวน เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินนํ้าแกง


อ่านต่อ »

แก่แดด

แก่แดดความหมายสำนวนนี้ ใช้เปรียบเทียบกับคนที่อายุน้อย ที่คิดพูดจา หรือทำสิ่งใดเกินวัยของตัวเอง เหมือนผลไม้ที่ปกติจะสุกเองตามทำธรรมชาติ แต่ก็มีบางครั้งทีผลไม้นั้นถูกแดด มากเกินจนสีของเปลือก เหมือนกับสุก ทั้งๆที่เนื้อในยังไม่สุกดี ซึ่งผลไม้สุกแดดก็มีรสเทียบกับ ผลไม้ที่สุกธรรมชาติไม่ได้


อ่านต่อ »

ทำคุณบูชาโทษโปรดสัตว์ได้บาป

สำนวนนี้มีความหมายว่าทำคุณแต่กลับเป็นโทษ ทำดีแต่กลับเป็นร้าย หรือ การช่วยเหลือผู้อื่นด้วยเจตนาดี แต่กลับกลายเป็นได้รับโทษตอบแทน ตัวอย่างเข่น ชายหนุ่มคนหนึ่งได้จอดรถเข้าช่วยเหลือชายชราคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากถูกรถเฉี่ยวชน ฃึ่งรถยนต์คันก่อเหตุในขับหลบหนีไปแล้ว แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาชายชรา กับกล่าวหาและแจ้งแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าชายหนุ่มเป็นผู้กระทำผิด เป็นคนขับรถยนต์เฉียวชนแก ทั้งๆที่เขาเป็นคนที่ช่วยเหลือแก เข้าทำนองทำคุณแต่กลับเป็นโทษ ทำดีแต่กลับเป็นร้าย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจย้อนกลับไปดูกล้องวงจรปิดจึงได้ทราบความจริงทีเกิดขึ้น 


อ่านต่อ »

ดีแตก

ความหมายสำนวนนี้คือ หมายถึงบุคคลที่เคยกระทำแต่ความดีมาตลอดอยู่มาวันหนึ่งประพฤติตนในทางผิดศีลธรรมหรือทำตัวไม่ดีเหมือนดังเคยทำให้เสียชื่อเสียงที่เคยมีมา เปรียบเทียบกับดีในท้องของสัตว์ อย่างดีปลา เมื่อดีปลาแตกแล้ว ก็จะทำให้เนื้อปลามีรสขม ไม่อร่อย คนที่ทำดีอยู่ดีๆ ก็กลับไม่ทำเสียนี่ ทำให้ความดีที่สะสมอยู่ในตัวหมดไป เสียชื่อ ก็เพราะทำไม่ดีนั่นเอง.


อ่านต่อ »

ดำเป็นตอตะโก

ตะโกเป็นไม้ดัด ลำต้นของต้นตะโกเป็นสีดำด้วยเหตุที่ว่าสมัยก่อนผู้คนนิยมเล่นไม้ดัดมาก ต้นตะโกจึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ดังนั้นเมื่อนึกถึงว่าจะเอาสีดำมาเปรียบกับอะไร ก็คงจะนึกถึงลำต้นของตะโกเป็นอันดับแรก ตัวอย่างของการใช้สำนวนนี้ ไฟไหม้บ้านบ้านลุงสี วอดทั้งหลังดำสภาพเหลือแต่ซากเสาดำเป็นตอตะโกเลย หรืออีกตัวอย่างหนึ่งการใช้สำนวนนี้.. เช้านี้ฉันปิ้งเนื้อหมูไว้ที่เตา เผลอไปทำโน่นนี้นั่นแปบเดียว เนื้อหมูของฉันไหม้ดำเป็นตอตะโกเลย เสียดายอดกินเลย


อ่านต่อ »

จิ้งจกตีนศาล

สำนวนนี้หมายถึง คนที่หากินเล็กๆน้อยๆ กับผู้มาติดต่อราชการโดยอาศัยช่องทางที่ตัวเองรู้ เรียกเอาค่าบริการจากชาวบ้านที่มาติดต่องานราชการที่ไม่มีความรู้ถึงขั้นตอนการทำงานของระบบราชการที่ซับซ้อนให้ได้รับความรวดเร็วจากที่ตัวเองมีความรู้ชองทางเป็นการภายในเป็นอย่างดี


อ่านต่อ »

ขี้แพ้ชวนตี

สำนวนขี้แพ้ชวนตี หมายถึง แพ้ตามกติกาแล้ว ยังไม่ยอมรับว่าแพ้ แพ้แล้วพาล จะเอาชนะด้วยกำลัง คนที่มีนิสัยอันธพาล ไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ไม่มีน้ำใจนักกีฬาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ตามกติกา เมื่อแพ้แล้วกลับพาลหาเรื่อง ท้าตีท้าต่อยไปทั่วแสดงนิสัยสันดานที่ไม่ดีออกมา


อ่านต่อ »

ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด

สำนวนนี้หมายถึง คนที่มีวิชาความรู้ดี หรือรู้สารพัดเกือบทุกอย่าง แต่ถึงคราวเกิดเรื่องมีปัญหาขึ้นกับตัวเอง กลับจนปัญญาแก้ไข หรือมีความหมาย อีกทางหนึ่งว่า มีความรู้อยู่มากมาย แต่ใช้วิชาหากินไม่ถูกช่อง ทำให้ต้องตกอยู่ในฐานะที่ลำบากยากจนเรื่อยมา สู้คนที่ไม่รู้หนังสือเลยแต่หากินจนร่ำรวยได้ จึงเป็นที่มาของสุภาษิตสำนวนไทย ที่ว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด..


อ่านต่อ »

รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง

ความหมายสํานวน หมายถึงการที่รู้จักเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากหรือสถานการณ์ที่อันตรายเข้าข้้นวิกฤติมาได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างได ความหมายสำนวนนี้เหมือนกับกับสำนวนรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี คือหลีกเลี่ยงกับปัญหาก่อนที่มันจะมาทำความยากลำบากให้กับตัวเองได้
อ่านต่อ »

ชุบมือเปิบ

ชุบมือเปิบ หมายความว่า ฉวยโอกาศ เอาสิ่งของคนอื่นทำจนสำเร็จ แล้วมาเป็นประโยชน์ของตน โดยที่ไม่ได้มีส่วนร่วมเกี่ยวข้อง อะไรมาก่อนเลย สำนวนนี้มาจากสมัยโบราณ ที่เวลากินข้าวเราจะใช้มือเปิบ และก่อนที่จะกินข้าว ก็ต้องใช้มือชุบน้ำก่อน เปรียบกับคนที่มาชุบมือเปิบข้าว โดยที่ไม่ได้ช่วยเขาทำ.
อ่านต่อ »